การพัฒนากระบวนการดูแลและให้คำปรึกษานักศึกษาด้านสุขภาพจิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Keywords:
การดูแล; การให้คำปรึกษา; สุขภาพจิต; การประเมินแบบเคิร์กแพทริคAbstract
งานพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีพันธกิจในการดูแลนักศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในรั้วมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะด้านสุขภาพจิตซึ่งเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในปัจจุบัน งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการดูแลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และพัฒนากระบวนการดูแลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตของนักศึกษา รวมถึงการทดลองใช้และประเมินความพึงพอใจของกระบวนการดูแลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย อาจารย์ที่ปรึกษา จำนวน 13 คน พี่เลี้ยง จำนวน 14 คน และนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จำนวน 69 คน โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบเคิร์กแพทริค (Kirpatrick) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมิน แบบสอบถาม และแบบทดสอบ วิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณนา เช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ของผู้เข้าร่วมอบรมก่อนและหลังการอบรม โดยใช้สถิติการทดสอบทีที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน (Dependent T-test) ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการดูแลสุขภาพจิตประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การป้องกัน การสร้างเครือข่าย การเฝ้าระวังและติดตาม การให้คำปรึกษา และการจัดการภาวะวิกฤติ โดยมีการประเมินผลที่สอดคล้องกับโมเดลการประเมินของ เคิร์กแพทริค ซึ่งครอบคลุม 4 ระดับ ได้แก่ 1) การประเมินปฏิกิริยา โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจของผู้อบรม พบว่าผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมดมีความพึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด 2) การประเมินการเรียนรู้ โดยใช้แบบทดสอบก่อนและหลังอบรมเพื่อประเมินความรู้ ผู้เข้าร่วมอบรมทุกกลุ่มมีคะแนนความรู้หลังการอบรมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) โดยกลุ่มนักศึกษาแสดงการเปลี่ยนแปลงของคะแนนในระดับที่สูงที่สุด (จาก 6.23 ± 2.07 เป็น 9.22 ± 1.27, p = 0.000) รองลงมาคือกลุ่มอาจารย์ที่ปรึกษา (จาก 6.31 ± 2.02 เป็น 8.46 ± 1.33, p = 0.000) และกลุ่มพี่เลี้ยง (จาก 6.43 ± 1.87 เป็น 7.93 ± 2.27, p = 0.013) 3) การประเมินพฤติกรรม โดยใช้แบบสอบถามประเมินความรู้ที่นำไปใช้ในการปฏิบัติ พบว่าอาจารย์ที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และนักศึกษาสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงจากทุกฝ่ายในระดับมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ย (S.D.) เท่ากับ 4.83 (0.39) 4.67 (0.58) และ 4.74 (0.58) ตามลำดับ 4) การประเมินผลลัพธ์ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจกระบวนการดูแลนักศึกษาด้านสุขภาพจิต พบว่ากระบวนการดูแลนักศึกษามีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้รับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย (S.D.) ของอาจารย์ที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และนักศึกษา เท่ากับ 4.45 (0.50) 4.62 (0.49) และ 4.53 (0.62) ตามลำดับ การพัฒนากระบวนการดูแลด้านสุขภาพจิตนี้เป็นการเสริมสร้างความยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งหวังให้นักศึกษามีสุขภาพจิตที่ดีและสามารถเผชิญกับความ ท้าทายในชีวิตได้
References
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แนวทางการดำเนินงานดูแลช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย (ฉบับเพิ่มเติม). กรุงเทพฯ: บริษัท บียอนด์ พับลิสซิ่ง จำกัด.
กองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์. (2566). รายงานผลการดำเนินงานของกองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2566. https://student.psu.ac.th/emeeting/topic/index?status=paper_view&tid=MjA0
คณะวิทยาศาสตร์. (2567). รายงานประจำปีคณะวิทยาศาสตร์. https://www.sci.psu.ac.th/annual-report
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้นฉบับปรับปรุงใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 7 (แก้ไขเพิ่มเติม). กรุงเทพมหานคร : สุวีริยายาสาส์น.
พิมพ์รัตน์ บุณยะภักดิ์, เฉลิมพรรณ์ เมฆลอย, รัชนี สรรเสริญ, และ อรนลิน สิงขรณ์. (2564). การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพจิตสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 14(4), 33-49.
พิสณุ ฟองศรี. (2554). การประเมินทางการศึกษา:แนวคิดสู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ:ด่านสุทธา การพิมพ์.
ศิลป์จารุ ธานินทร์. (2549). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. กรุงเทพฯ: วี อินเตอร์ พริ้นท์.
สมบูรณ์ หทัยอยู่สุข, พัชรินทร์ เสรี, และ แกมแก้ว โบษกรนัฏ. (2563). ทัศนคติและแรงจูงใจในการทำงานด้านสุขภาพจิตนักศึกษาของผู้เข้าร่วมโครงการมหิดลเฟรนด์มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 50(2), 226-240.
สุดรัก พิละกันทา. (2564). รูปแบบการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพจิตสำหรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. จิตเวชวิทยาสาร, 37(3), 202-218.
Chorpita, B. F., & Daleiden, E. L. (2018). Coordinated strategic action: Aspiring to wisdom in mental health service systems. Clinical Psychology: Science and Practice, 25(4), 90.
Cohen, J. (1977). Statistical power analysis for the behavioral sciences. Massachusetts: Academic Press.
Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175-191.
Hunt, J., & Eisenberg, D. (2010). Mental health problems and help-seeking behavior among college students. Journal of Adolescent Health, 46(1), 3-10.
Rith-Najarian, L. R., Boustani, M. M., & Chorpita, B. F. (2019). A systematic review of prevention programs targeting depression, anxiety, and stress in university students. Journal of Affective Disorders, 257, 568-584.
World Health Organization. (2020). Mental health and COVID-19: Early evidence of the pandemic’s impact. Switzerland: World Health Organization.