การศึกษาการปนเปื้อนของแบเรียม สารหนู และ ตะกั่ว ในเครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว
Keywords:
ผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว, ICP-OES, แบเรียม, สารหนู, ตะกั่วAbstract
ปัจจุบันเครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิวมีให้เลือกมากมาย ตามสภาพผิว ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป และมีการสร้างสื่อที่มีบทบาทต่อผู้บริโภคเพื่อยืนยันคุณภาพของสินค้านั้น งานวิจัยนี้จึงได้ทำการศึกษาการปนเปื้อนของโลหะหนัก ที่มักเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว คือ แบเรียม สารหนู และ ตะกั่ว ที่สุ่มตัวอย่างจากร้านขายเครื่องสำอาง ในจังหวัดสงขลา จำนวน 20 ตัวอย่าง เพื่อเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน ในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมทาบำรุงผิว (มอก.478-2555) สำหรับเป็นข้อมูลด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ด้วยเทคนิค Inductively Coupled Plasma-Optical Emission Spectrometry (ICP-OES) ผลการศึกษา พบว่า ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภททาบำรุงผิว 20 ตัวอย่าง มีปริมาณแบเรียมในรูปของแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) อยู่ในช่วง 0.0005-0.0118 %(w/w) ไม่พบการปนเปื้อนของสารตะกั่วและสารหนู ที่คำนวณในรูปของอาร์เซนิกไตรออกไซด์ (As2O3) เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว (มอก.478-2555) ซึ่งกำหนดมาตรฐานของแบเรียมที่คำนวณในรูปแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) ต้องไม่เกิน 0.05 %(w/w) สารหนูที่คำนวณในรูปอาร์เซนิกไตรออกไซด์ (As2O3) ต้องไม่เกิน 5 mg/kg และตะกั่ว (Pb) ต้องไม่เกิน 20 mg/kg สรุปได้ว่าตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภททาบำรุงผิวที่ทำการศึกษา จำนวน 20 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
References
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ยกเลิกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง : ครีมและโลชั่นทาผิวและกำหนดมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว พ.ศ.2511. (2555, 14 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 129 ตอนพิเศษ ง.
หน้า 9.
กัลยา แสงเรือง. (2555). การวิเคราะห์หาปริมาณทองแดง ตะกั่ว สังกะสี และไฮโดรควิโนน ในครีมบำรุงผิวเพื่อหน้าขาว. วารสารวิจัยราช
ภัฏพระนคร, 7(1), 27-34.
ณพัฐอร บัวฉุน. (2559). การวิเคราะห์โลหะหนักในเครื่องสำอาง Determination of heavy metal in cosmetics. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 11(2), 85-95.
นนตรา สัมพันธ์เวชกล. (2564). การศึกษาปริมาณสารโลหะหนักประเภทตะกั่วและแคดเมียมในลิปสติก ที่จำหน่ายในช่องทางออนไลน์ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พลอยไพลิน ปาละวงศ์ และ ธิติ มหาเจริญ. (2563). การวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักในลิปสติกยี่ห้อที่ระบุและไม่ระบุเลของค์การอาหารและยา ด้วยเทคนิค ICP-OES. วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์, 6(2), 121-135.
สุญาดา กาศยปนันทน์ (2563), การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสโลหะหนักในเครื่องสำอางลอกเลียนแบบ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เสาวนีย์ กระสานติสุข และ หทัยชนก รุณรงค์. (2549) การพัฒนาตำรับโลชั่นบำรุงผิว, [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต], มหาวิทยาลัยมหิดล.
Al-saleh, I., & Al-Enazi, S., (2011). Trace metals in lipsticks. Toxicological and Environmental Chemistry, 93(6), 1149-1165.
Arshad, H., Mehmood, M. Z., Shah, M. H., & Abbasi, A. M. (2020). Evaluation of heavy metals in cosmetic products and their health risk assessment. Saudi Pharmaceutical Journal, 28(7), 779-790.
Chris, D., Trey, V., Derek, B., Georgions, B., & Robert, T. (2023). How ICP-OES changed the face of trace element analysis: Review of the global application landscape. Science of The Total Environment, 905, 167242.
George, W., & Latimer, Jr. (2019). Official methods of analysis of AOAC international (21st eds.). AOAC International.
Sabah E. A. E., Hassan M.A., Almoeiz M., (2013). The Hazards of hidden heavy metals in face make-ups. British Journal of Pharmacology and Toxicology, 4(5), 188-193.